วันอาทิตย์ที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2557

อยากหุ่นดี ไม่อยากอ้วน ฟังทางนี้ค่ะ

ไม่อยากอ้วนอีกต่อไป มีวิ๊ง่ายค่ะ ไม่ต้องบ้าออกกำลังกาย หรืออดอาหารทำลายสุขภาพ ลองนี่ดูซิคะ




ของแท้ 100%

วันพุธที่ 16 เมษายน พ.ศ. 2557

สร้างกำลังใจ


ถ้าเราทำผิดโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้คิดซะว่าถ้าไม่เคย "ผิด" แล้วจะรู้จัก"ถูก" ได้อย่างไร

เรื่องจริง.......ยิ่งกว่านิยาย(๒)

ตอนที่ ๒ ความโดดเดี่ยว

             เสียงระฆังดังกระฉ่อนไปทั้งโรงเรียน เป็นเสียงบ่งบอกถึงเวลาพักกลางวัน พรและเพื่อนๆก็ไปทานอาหารที่โรงอาหารตามปกติ พรจะได้เงินมาวันละ ๑๕ บาท ซื้อข้าว ๗ เจ็ด ซื้อน้ำ ๓ บาท เหลือเงิน ๕ บาท พรก็จะเก็บไว้ไปหยอดกระปุกออมสินที่บ้าน เมื่อพรทานข้าวและซื้อน้ำแล้วเธอกับเพื่อนก็เดินไปนั่งเล่นใต้ร่มไม้ใหญ่ เพราะอากาศดีมากเย็นสบายแต่นั่งได้ไม่นานเพื่อนๆก็ชวนกันไปวิ่งไล่จับ แต่สำหรับพรเค้าไม่ได้ไปวิ่งเล่นกับเพื่อนเธอเดินออกไปหามุมส่วนตัวโดยการอ่านหนังสือการ์ตูนที่ห้องสมุดคนเดียว ซึ่งในห้องสมุดก็จะมีไม่กี่คน

             เมื่อถึงเวลาเข้าชั้นเรียนพรก็เดินไปเข้าห้องเรียนและในวันนั้นคุณครูได้ให้มีการจัดโต๊ะเรียนใหม่โดยจัดให้ได้กลุ่มละ ๗ คน ซึ่งให้จัดโต๊ะเป็นสองแถวแล้วหันหน้าเข้ากันส่วนคนที่ไม่มีคู่ให้นั่งหัวมุมโต๊ะคนเดียว ซึ่งการจัดโต๊ะเรียนแบบนี้จะจัดทุกๆเทอญ ซึ่งทุกเทอญพรก็จะได้นั่งตรงมุมหัวโต๊ะคนเดียว พรเป็นเด็กที่ไม่มีเพื่อนสนิทเลยแม้แต่คนเดียวจะมีก็แต่เป็นเพื่อนในกลุ่มมากกว่า เพราะเธอเป็นเด็กที่มีโลกส่วนตัวสูง ไม่ค่อยเข้าร่วมกิจกรรมที่เพื่อนทำกันเท่าไหร่ ชอบที่จะไปนั่งอ่านหนังสือคนเดียว และเป็นเด็กไม่ค่อยพูด ฉะนั้นไม่แปลกเลยที่พรจะไม่มีเพื่อนสนิทเลยซักคน และคุณครูประจำชั้นก็จะชอบเขียนด้านหลังสมุดบันทึกเกรดเฉลี่ยของพรอยู่เสมอว่า "เรียนผู้ปกครองของน้องพร น้องพรเป็นเด็กขี้อาย ไม่กล้าแสดงออก และไม่ค่อยพูดซักเท่าไหร่ การเรียนอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ค่ะ" แต่ว่าสมุดบันทึกที่คุณครูเขียนและให้พรเอาไปให้ผู้ปกครองดูนั้น ผู้ปกครองของพรซึ่งมีแม่และยาย คุณคิดว่าใครจะเป็นคนที่ดูและอ่านสมุดบันทึกนั่น เฉลยเลยดีกว่าค่ะ ไม่มีใครที่เปิดอ่านหรอกค่ะ เพราะแม่ของพร เมื่อพรกลับจากโรงเรียนก็ไม่เจอกันแล้วแม่ของเธอจะกลับบ้านตอนดึก ส่วนยายนั้นไม่ต้องพูดถึงแกเป็นคนแก่ที่หูหนวกตาก็ไม่ค่อยดี ฉะนั้นสมุดบันทึกที่คุณครูได้เขียนไว้ให้ผู้ปกครองของพรอ่านนั้นก็ยังอยู่ในกระเป๋าเหมือนเดิม

            วันเวลาผ่านไปถึงช่วงที่ต้องปิดเทอญใหญ่ ก่อนปิดเทอญ ๑ วัน ในแต่ละชั้นเรียนก็ได้พากันทำความสะอาดเก็บอุปกรณ์การเรียนของตัวเองให้ครบซึ่งเพื่อนๆในห้องต่างก็มีพ่อแม่มาคอยรับและพูดคุยกับคุณครูประจำชั้น ส่วนพรได้แต่นั่งหน้านิ่งมองเพื่อนๆทีและคนอย่างเดียวเพราะรู้ดีว่าตัวเองไม่มีพ่อส่วนแม่ก็เมาเป็นเรื่องปกติอยู่แล้ว ก่อนจะถึงเวลาคุณครูปล่อยคุณครูก็จะแจกนมกล่องให้ไปดื่มที่บ้านคนละ ๑ ลัง คิดดูซิค่ะ ว่ามันหนักมากแค่ไหน เพื่อนคนอื่นๆก็มีพ่อถือลังนมให้แม่ก็ถือกระเป๋าให้ ส่วนพร เธอคงจะปลงเธอต้องแบกลังนมออกจากโรงเรียนแบบหน้านิ่งๆเพื่อนก็มอง

             เมื่อพรหอบหิ้วสิ่งต่างๆมาถึงหน้าโรงเรียนก็พบว่ายายของเธอกำลังเดิมมาหา ใบหน้าของพรนั้นยิ้มออกได้เลยทีเดียว ยายของพรถือลังนมให้พรและก็เดินกลับบ้านด้วยกัน พอมาถึงบ้านพรก็เปลี่ยนชุด จากนั้นก็เอานมไปเก็บไว้ในบ้านและช่วยยายกวาดบ้านหุงข้าว ซึ่งถ้าถามว่าแม่ของเธอไปไหน ก็เหมือนเดิมเพราะพรมาถึงบ้านไม่เห็นแม่เธอก็รู้แล้วว่าแม่ไปไหน ทำอะไรอยู่ ความรู้สึกของเธอมันชินชาไปเสียแล้ว

วันพุธที่ 9 เมษายน พ.ศ. 2557

เรื่องจริง.......ยิ่งกว่านิยาย

ตอนที่ ๑ เด็กน่าสงสาร

             เมื่อปี พ.ศ.2534 ได้มีเด็กผู้หญิงคนหนึ่งเกิดมาด้วยน้ำหนักแรกเกิดเพียง ๒,๗๐๐ กรัม ตัวเหลืองเพราะไม่สมบรูณ์จึงต้องเข้าไปอบในตู้อบของโรงพยาบาล และแม่ก็ได้ตั้งชื่อเค้าว่า "พร" เพราะเค้าคือพรที่แม่เค้าขอต่อพระเจ้า เมื่อถึงวันที่ต้องออกจากโรงพยาบาลพรมีเพียงแม่และยายที่มารับเค้า บางคนสงสัยว่าพ่อของพรไปไหน คำตอบก็คือ พรไม่มีพ่อ? งงกันไหมล่ะ เพราะพ่อของพรทิ้งแม่และพรไปตั้งแต่ตอนที่แม่ของเค้าตั้งครรภ์ได้เพียง ๑๐ เดือนเท่านั้น (น่าสาร)

             วันเวลาผ่านไปพรก็ได้เข้ารับการศึกษาที่โรงเรียนใกล้บ้าน มีแม่และยายของเค้าผลัดกันเดินไปส่งที่โรงเรียนทุกเช้า พอเข้าในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ พรก็เดินไปโรงเรียนเองพร้อมเด็กแถวบ้านสองสามคนเป็นแบบนี้ทุกวันจันทร์-ศุกร์ มีครั้งนึงในฤดูฝน ตอนเลิกเรียน พรยืนรอแม่ของตัวเองมารับด้วยความหวังและไม่ยอมไปกับใคร ถึงแม้น้าข้างบ้านที่มารับลูกของแกจะพาไปส่งด้วยก็ตาม

๑๐ นาทีผ่านไป

๓๐ นาทีผ่านไป

๑ ชั่วโมงผ่านไป  ก็ยังไร้วี่แววของแม่ พรตัดสินใจเดินกลับบ้านเองทั้งที่ฝนยังคงตกหนักพร้อมกับความผิดหวังที่หลั่งรินออกมาหลายหยด เมื่อเดินกลับมาถึงบ้านเห็นแค่ยายกำลังทำอาหาร มองไปรอบก็ไม่เห็นแม่ พรก็เลยถามยาย และคำตอบที่ได้มันทำให้พรถึงกับพูดไม่ออกยายบอกว่า "แม่ไปกินเหล้ากับเพื่อน" ในใจของพรนั้นคิดว่าแค่เกิดมาพ่อไม่มีถูกทิ้งตั้งแต่เด็กก็ปวดใจจะแย่ ไหนยายจะแก่หลงๆลืม แม่ก็ยังมากินแต่เหล้า เมาเกือบทุกวัน ทำไมชีวิตต้องเป็นแบบนี้ด้วย รู้สึกเหมือนขาดความอบอุ่น แต่จะทำไงได้ชีวิตต้องดำเนินต่อไป พรรีบอาบน้ำและมากวาดบ้าน นั่งทำการบ้าน และทานข้าวกับยายสองคน เพราะแม่ยังไม่กลับบ้านทั้งที่มันก็ปาไปตั้งสี่ทุ่มกว่าแล้ว


วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

ร่วมใจกันรักษาแม่น้ำลำคลอง

            คุณรู้หรือไม่ว่า? การที่แม่น้ำลำคลองของประเทศเราทุกวันนี้มีกลิ่นเหม็น ส่งผลให้ปลาที่อยู่ในน้ำตาย อากาศที่เคยสดชื่นก็กลับเป็นส่งกลิ่นเหม็นเพราะมี ถุงพลาสติก แก้วน้ำ ขวดน้ำอัดลม และอีกต่างๆอันมากมาย ที่อยู่ในแม่น้ำ ทั้งหมดนี้มันคงไม่ได้เกิดขึ้นเองหรอกค่ะ แต่มันเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของ
มนุษย์เราเอง

             เพราะความมักง่ายของใครหลายๆ ที่ทิ้งพวกขวดน้ำ ถุงพลาสติกต่างๆที่ตัวเองห่ออาหารมาพอทานหมดก็โยนทิ้งไปในแม่น้ำ คิดว่าเป็นเรื่องธรรมดา ทิ้งแค่คนเดี่ยวเอง อืม แต่ทว่าถ้ามีคนแบบนี้คืดเหมือนกัน คนนึงทิ้งอันเดียวแล้วคนไทยกี่สิบล้านคนล่ะค่ะ มีหวังขยะล้นแม่น้ำแน่ๆ

            ฉะนั้นเราควร คิดใหม่ ทำใหม่ ร่วมใจกันรักษาแม่น้ำลำคลองกันเถอะ มันไม่ยากเหนือบ่ากว่าแรงเราหรอกค่ะ แค่ทิ้งขยะให้ถูกที่ ทิ้งใส่ถังขยะ เพราะมันจะทำให้แม่น้ำลำคลองเรากลับมาใสสะอาดปราศจากสารเคมี ปลาที่อาศัยอยู่ในน้ำนั้นก็จะไม่ตาย อากาศก็สดชื่น และทำให้สิ่งแวดล้อมดีขึ้น 

วันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2557

วิธีผ่อนคลายเท้า!!

            "เท้า" ซึ่งทุกคนก็มีคนละ ๒ ข้าง เป็นสิ่งที่พาเราไปไหนต่อไหนไม่ว่าจะเป็น เดินช้อปปิ้ง การวิ่ง การปืนผา การเดินขั้นบรรได จะเห็นได้ว่าเท้าของเรานั้นมีบทบาทอย่างมากในการดำเนินชีวิตของ ซึ่งถ้าขาดมันไปคงไม่ดีแน่ ฉะนั้นเมื่อเราใช้งานเท้าของเราอย่างหนักหน่วงแล้วเราก็ควรจะเอาใจใส่เท้าของเราบ้าง

วิธีผ่อนคลายเท้า

๑. นวดเท้าด้วยมือของเราเองหรือถ้าใครคิดว่านวดไม่เก่งนวดไม่เป็นก็ไปให้หมอนวดตามร้านนวดก็ได้ค่ะเพื่อที่จะได้รับการนวดเท้าแบบผ่อนคลายที่ดีสุดแถมเราอาจจะเพิ่มนวดเท้าเป็นนวดทั้งตัวก็ได้ค่ะเเบบว่าเพลินไปเลย

๒. การแช่น้ำอุ่น ซึ่งวิธีนี้ง่ายมาก สะดวกและรวดเร็วดีค่ะ ทำได้ง่ายๆโดย หาชามใหญ่ๆหรือกะละมังมาพร้อมกับเทน้ำอุ่นลงไป ผสมเกลือเล็กน้อย จากนั้นก็แช่เท้าทั้ง ๒ ข้างของเราลงไปในกะละมังหรือชามได้เลยค่ะ วิธีนี้ดีมากๆอยากให้ลองทำดูค่ะ แช่เท้าไว้นานประมาณ ๓o นาทีแค่นี้คุณก็จะรูสึกผ่อนคลายแบบสุดๆเลยล่ะค่ะ

๓. การใช้ครีมนวดกล้ามเนื้อเท้า(วิธีนี้เหมาะสำหรับคนที่ใช้เท้ามาอย่างหนักหน่วง) ก็คือหาซื้อครีมนวดคลายกล้ามเนื้อเท้าจากห้างสรรพสินค้าต่างๆ หรือ ตามคลีนิคก็ได้ค่ะ แล้วก็ทำความสะอาดเท้าของเรา เช็ดให้แห้งและก็บีบครีมลงฝ่ามือนวดครีมให้เนื้อครีมกระตุ้นจากนั้นก็ทาลงบนฝ่าเท้าของเรา จากนั้นนวดตามปกติของเราเลยคือนวดแบบผ่อนคลายค่ะ

          เป็นยังไงบ้างคะวิธีการผ่อนคลายของเท้าเราง่ายๆค่ะลองทำดู เพราะเท้าของเราเป็นอวัยวะที่สำคัญของเราเหมือนกัน ฉะนั้นอย่าละเลยที่จะดูแลเลยค่ะ